ขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมกันสร้างลานเจดีย์และองค์พญานาคทางเข้าพระเจดียศรีทศพลบรมไตรโลกนาถ ณ วัดน้ำเขียว (บุญช่วยสามัคคีธรรม) ต.กองทูล อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ เพื่อถวายเป็นไตรรัตนบูชา

ประวัติความเป็นมาพระมหาเจดีย์ชเวดากอง



ในสมัยพุทธกาล... สัปดาห์ที่ ๗ หลังจากตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว พระพุทธเจ้าทรงเสด็จประทับเสวยวิมุตติสุข ณ ใต้ต้นราชายตนะ (ต้นเกด หรือต้นไม้ที่อยู่แห่งพระราชา) ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็นเวลาอีก ๗ วัน แล้วจึงทรงออกจากฌานสมาบัติหรือสมาธิ
              ท้าวสักกเทวราชทรงทราบว่า... นับแต่พระพุทธองค์ตรัสรู้มา ๗ สัปดาห์ รวม ๔๙ วัน ยังมิได้เสวยภัตตาหารเลย จึงนำไม้สีพระทนต์ชื่อ "นาคลดา" พร้อมน้ำ
จากสระอโนดาตและผลสมออันเป็นทิพยโอสถจากเทวโลกมาน้อมถวายในตอนเช้าของวันขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๘ หรือเดือนอาสาฬหะ
              ณ ที่แห่งนี้เอง... ได้มีพ่อค้าพานิช ๒ พี่น้องเป็นชาวพม่าชื่อ "ตปุสสะ" กับ "ภัลลิกะ" นำเกวียน ๕๐๐ เล่ม เดินทางผ่านมาทางตำบลพุทธคยา สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
              พ่อค้าทั้ง ๒ ได้พบพระผู้มีพระภาคเจ้าขณะทรงประทับอยู่ใต้ต้นราชายตนะ มีพระรัศมีอันผ่องใสงดงามยิ่งนักก็บังเกิดความเลื่อมใส จึงนำ "ข้าวสัตตุผง สัตตุก้อน" ซึ่งเป็นเสบียงเดินทางของตนไปน้อมถวาย
                  ขณะนั้นพระพุทธองค์ยังไม่มีบาตร ท้าวจตุมหาราชทั้ง ๔ จึงได้น้อมนำบาตรแก้วอินทนิลมาถวายองค์ละใบ ทรงดำริว่าใบเดียวก็เพียงพอแก่เรา จึงทรงอธิษฐานให้บาตรทั้ง ๔ ใบนั้นประสานเข้าเป็นใบเดียวกัน แล้วทรงรับข้าวสัตตุผง สัตตุก้อนจากพ่อค้าพานิชทั้ง ๒
                   หลังจากพระพุทธองค์เสวยเสร็จก็ทรงแสดงธรรมและประทานอนุโมทนาแก่พ่อค้าพานิช เมื่อจบพระธรรมเทศนา พ่อค้าทั้ง ๒ ก็เปล่งวาจาถึงพระพุทธเจ้าและพระธรรมเป็นสรณะตลอดชีวิต ไม่เปล่งวาจาถึงพระสงฆ์เพราะขณะนั้นยังไม่มีพระสงฆ์ "ประกาศตนเป็นอุบาสกผู้ถึงรัตนะเป็นคู่แรกในพระพุทธศาสนา"
                   ก่อนที่จะเดินทางต่อไป พ่อค้าพานิชทั้ง ๒ ได้กราบทูลขอสิ่งของที่ระลึกเพื่อนำกลับไปบูชาสักการะ พระพุทธองค์ทรงเอาพระหัตถ์ลูบพระเศียร "เส้นพระเกศา ๘ เส้น" หลุดติดพระหัตถ์มา จึงทรงประทานให้แก่พ่อค้าพานิชนั้น
                    ชาวพม่า ๒ พี่น้องนี้ก็ได้นำพระเกศาธาตุ ๘ เส้นกลับไปยังเมืองย่างกุ้ง บ้านเมืองของตน พอถึงประเทศพม่าได้มีพิธีสมโภชพระเกศาธาตุซึ่งบรรจุไว้ภายในผอบทองคำหลายวันหลายคืน และได้จัดสร้าง "พระมหาเจดีย์ชเวดากอง" เพื่อประดิษฐานพระเกศาธาตุมาจนถึงตราบเท่าทุกวันนี้
                   "พระมหาเจดีย์ชเวดากอง" กล่าวกันว่า... บนยอดของพระเจดีย์มีเพชรอยู่จำนวน ๕,๔๔๘ เม็ด ชั้นข้างบนสุดมีเพชรเม็ดใหญ่อยู่ ๗๖ กะรัต และทับทิม ๒,๓๑๗ เม็ด มีมรกตเม็ดใหญ่อยู่ตรงกลาง เพื่อรับลำแสงแรกและลำแสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์