การเจริญกรรมฐานจริง ๆ ถ้าทำเเป็นล่ำเป็นสัน
มันอาจจะเกินพอดีไปก็ได้ เอากันแบบคนขี้เกียจ
แต่ตายแล้วไม่ลงนรกดีกว่า ง่ายดีนะ
คนขี้เกียจเขาจะทำแบบนี้
ก่อนนอนหลับ นึกถึงพระพุทธเจ้า หรือนึกถึง
พระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งโดยเฉพาะที่เราชอบ
จิตก็จับลมหายใจเข้าออก ภาวนา "พุทโธ" ก็ได้
อะไรก็ได้นะ เอาพุทโธเป็นเกณฑ์ก็แล้วกัน
หายใจเข้านึกว่า "พุท" หายใจออกนึกว่า "โธ"
เพียงแค่ ๒-๓ ครั้ง มันหลับไปก็ใช้ได้
ขณะภาวนาอยู่ถ้าจิตเข้าไม่ถึงฌานมันจะไม่หลับ
ถ้าจิตสงบถึงฌานมันจะตัดหลับทันที
จะเป็นฌานขั้นไหนก็ตาม ขณะที่หลับอยู่กี่ชั่วโมงก็ตาม
ท่านถือว่า ทรงฌานตลอดเวลา ถ้าตายเวลานั้น
จะเป็นพรหมทันทีเป็นอย่างน้อย ถ้าบังเอญก่อนจะตาย
ก่อนจะหลับเรานึกถึงพระนิพพาน ภาวนาด้วย
นึกถึงพระนิพพานไว้ก่อนด้วย แล้วก็หลับ
จิตเป็นฌานก็หลับ เขาถือว่าจิตทรงในด้านของนิพพาน
เรียกว่า อุปสมานุสสติกรรมฐาน ถ้าตายเวลาหลับ
จะไปนิพพานทันที
ถ้ามันไม่ตาย มันตื่น ก่อนจะขยับตัวไปไหน
ก่อนจะหลับจิตเราเป็นฌาน เมื่อตื่นขึ้นมาแล้ว
ฌานยังไม่คลายตัว ยังทรงอยู่ ก็เริ่มจับลมหายใจ
เข้าออกใหม่ภาวนาใหม่แค่ ๒-๓ ครั้งก็ตาม
เพียงแค่นี้ทำทุกวัน ทุกคนเวลาจะตายจะไม่นึกถึง
อกุศล จะนึกเฉพาะ กุศล อย่างเดียว
ถ้าทำอย่างนี้ทุกวัน ทำแบบคนขี้เกียจนะ
ฉันมันคนขี้เกียจก็เลยสอนให้ลูกศิษย์เป็นคนขี้เกียจด้วย
ถ้าทำอย่างนี้ทุกวันถ้าเราป่วยหนักขนาดไหนก็ตาม
ถ้ายังไม่เห็นเทวดา ไม่เห็นนางฟ้า ไม่เห็นพรหม
ไม่เห็นพระอริยเจ้า ไม่เห็นพระพุทธเจ้า ยังไม่ตาย
ถ้าขณะป่วยถึงแม้มันจะไม่หนัก เห็นเทวดาเห็นนางฟ้า
เต็มจักรวาล เห็นพรหม เห็นพระอริยเจ้า เห็นพระพุทธเจ้า
คราวนั้นตายแน่
ถ้าก่อนตายทุกขเวทนาหนัก ปวดเสียด แต่ก่อนจะตายจริง
สักอย่างน้อยที่สุด ๒๐ นาที หรืออาจจะ ๒ - ๓ วันก็ได้นะ
จิตที่มีทุกขเวทนามันจะหายไป จิตจะจับที่เทวดา ที่นางฟ้า
ที่พรหม ที่พระอริยเจ้า มีความเพลิดเพลินคุยกับท่าน
แบบสบาย ๆ และในที่สุดจิตก็ดับ ก็ไปสวรรค์ ไปพรหมโลก
ไปนิพพานได้ตามชอบใจ
ก่อนจะหลับให้ภาวนาว่า "พุทโธ" สัก ๒ - ๓ ครั้ง
แล้วภาวนาว่า "นิพพานัง สุขัง" ไปจนกว่าจะหลับ
เมื่อเวลาตื่นขึ้นมาใหม่ๆ ให้ภาวนาว่า
"นิพพานัง สุขัง" สัก ๒-๓ ครั้ง อย่างนี้ทุกคืน
จะไปนิพพานได้ในชาตินี้ ใครภาวนา "นิพพานัง สุขัง "
ไม่ได้ ให้ภาวนาว่า "พุทโธ" อย่างน้อยที่สุด
ตายจากชาตินี้แล้วไปสวรรค์
จากหนังสือ "พ่อสอนลูก"
ธรรมโอวาทหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง