ขณะนี้เป็นเวลา 2.30 น.
ซึ่งผู้เขียนกำลังพักผ่อนอิริยาบทจากการปฎิบัติในค่ำคืนวันพระที่แสงดวงจันทร์ส่องสว่างงามตา
ผู้เขียนจึงขอเล่าประสบการณ์ เดินทางไปแสวงบุญตามรอยหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด
ในขณะที่ผู้เขียน ได้บอกเล่าประสบการณ์เดินทางนั้น อยู่ระหว่างช่วงกระผมถือศีลอุโบสถและปฎิบัติกรรมฐานอยู่บนเขาแห่งหนึ่งทางทางภาคใต้ตอนล่างของไทยซึ่งเป็นสถานที่สงบและศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งและมีความเป็นธรรมชาติอยู่มาก
การประกอบกิจทางศาสนาต้องใช้เทียนไขเพื่อให้แสงสว่างยามค่ำคืน
ผมขอเข้าเรื่องการเดินทางแสวงบุญครั้งนี้ที่บ่อน้ำจืดกลางทะเล ณ เกาะนุ้ย
ซึ่งเป็นเกาะที่อยู่ในทะเลอ่าวไทยจังหวัดนครศรีธรรมราช
และยังสามารถเห็นจังหวัดสุราษณ์ธานีได้อีกด้วย
ซึ่งเกาะนุ้ยเป็นที่กล่าวกันทางตำนานว่ามีรอยเท้าหลวงปู่ทวด
ได้เหยียบน้ำทะเลจืดเอาไว้ที่นี่ การเดินทางมาเยือน เกาะนุ้ย
อำเภอขนอม จังหวัด
นครศรีธรรมราช โดยท่านสามารถมาที่ ท่าเรือแหลมประทับ
เพื่อมานั่งเรือหางยาว จากแหลมประทับไปยังเกาะนุ้ยได้ ใช้เวลาในการนั่งเรือหางยาวประมาณ
20 นาที
ระหว่างการเดินทางจะได้ชมบรรยากาศทิวทัศน์ที่เป็นเกาะสลับซับซ้อนโดยรอบและได้เห็นวิถีชาวประมงระหว่างการเดินทางซึ่งเป็นภาพที่สะท้อนวัฒนธรรมวิถีชาวบ้านได้อย่างน่าประทับใจ ไม่นานเราก็มาถึงเป้าหมายการเดินทางของเรา
ผมไม่รีรอที่จะรีบลงเรือและลุยน้ำทะเลขึ้นเกาะเพื่อไปพิสูจน์บ่อน้ำจืดจากรอยเท้าหลวงปู่ทวดอันลือชื่อแห่งความศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน
คนเรือได้ชี้บอกทางให้เราไปยังบ่อน้ำจืดที่เล่าขานเมื่อมาถึงยังจุดสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าเรานั่นคือ บ่อน้ำรูปร่างคล้ายรอยเท้า ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 30 นิ้ว เป็นบ่อน้ำจืด โดยช่วงเวลาที่น้ำทะเลขึ้นจะกลบบ่อน้ำจนมองไม่เห็น แต่เมื่อน้ำทะเลลดลงจะเผยให้เห็นบ่อน้ำจืด ผมจึงได้นมัสการบ่อน้ำจืดรอยเท้าหลวงปู่ทวดตามความเชื่อของเรา
และอธิษฐานขอบารมีหลวงปู่ท่านพร้อมดื่มกินน้ำจืด(รสชาดกร่อยนิดหน่อย) พร้อมประพรมศีรษะและใบหน้าเพื่อความเป็นสิริมงคล
และไม่ลืมที่จะตักใส่ขวดน้ำนำกลับมาด้วย จากนั้นผมได้เดินขึ้นเกาะไปบนเขาต่อไปจนสุดจะพบจุดที่ประดิษฐานพระหลวงปู่ทวดตั้งอยู่3
องค์มีทั้งทำจากหินแกะสลักขัดเงางดงามมากและทั้งจากโลหะ กระผมทำการสักการะและนั่งสมาธิภาวนาแผ่เมตตาที่นั่นชั่วระยะเวลาพอสมควร
จึงออกเดินทางต่อเพื่อจะไปยังถ้ำพญานาคราช และเกาะแก้วพิสดาร ต่อ
และก่อนกลับในจิตก็เกิดขึ้นมาว่าอยากค้างที่เกาะสักคืนหนึ่งแต่ด้วยต้องเดินทางต่อจึงมิอาจค้างคืนได้
ระหว่างทางนั่งเรือกลับเราได้พูดคุยกับทางคนขับเรือว่าเคยมีใครมาค้างที่เกาะนุ้ยแห่งนี้บ้างไหม
คนเรือตอบเราอย่างไม่ลังแลว่ามีเยอะ ทั้งที่เป็น พระสงฆ์ นักพรตฤาษี
และบุคคลผู้ปฎิบัติทั่วไป ต่างไม่มีใครสามารถค้างได้สักคน
ต้องโทรศัพท์ให้รีบมารับก่อนตะวันตกลับขอบฟ้าทุกราย (คนขับเรือกล่าวกับกระผม)
แต่ในใจก็ยังอยากค้างสักคืนเพื่อเจริญสมาธิภาวนาเพราะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และสัปปายะมากอีกแห่งหนึ่งเลย
จากการเดินทางตามรอยหลวงปู่ทวดที่ผ่านมา ผมได้พบพานสถานที่ที่หลวงปู่ทวดเคยธุดงค์และปักกลดในอีกหลายๆสถานที่
และยังไม่รู้จักกันแพร่หลายไว้โอกาสหน้าผมจะเขียนเล่าให้ทุกท่านอ่านกันครับ
ครั้งนี้ต้องขออนุญาติทุกท่านจบเล่าเรื่องการเดินทางยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ไว้แค่นี้ก่อนเพราะขณะนี้เป็นเวลา
4.12 น. ผมต้องไปเตรียมตัวสวดมนต์ทำวัตรเช้า
และออกตามพระลงจากเขาเพื่อบิณฑบาตรยามเช้าต่อไปครับ ///// อัครพล