ขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมกันสร้างลานเจดีย์และองค์พญานาคทางเข้าพระเจดียศรีทศพลบรมไตรโลกนาถ ณ วัดน้ำเขียว (บุญช่วยสามัคคีธรรม) ต.กองทูล อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ เพื่อถวายเป็นไตรรัตนบูชา

พ่อหมออรรถพลผจญเจ้ากรรมนายเวร ณ จังหวัดกาญจนบุรี

เรื่อง การผจญเจ้ากรรมนายเวรนั้นเกิดขึ้นเมื่อตอนที่ ผมได้มีโอกาส
ในการไปอัญเชิญพระธาตุครั้งแรก ณ จังหวัดกาญจนบุรี นี้เองทำให้ผม
ได้มีโอกาสได้พบกับเจ้ากรรมนายเวรที่รอคอยกันเป็นเวลานาน
ใน เย็นหนึ่งของวันแรกของการอัญเชิญพระธาตุอาจารย์กฤษณะ
 ได้พาผมและเหล่าสมาชิกออกตะลุยอัญเชิญตามถ้ำต่าง ๆ
จนมาถึงถ้ำแห่งหนึ่ง ณ เวลาที่เรามาถึงเป็นเวลาใกล้จะพบค่ำแล้ว

 ทางผมและเพื่อนร่วมคณะก็ออกค้นหาปากทางเข้าถ้ำกันแต่ก็ใช้เวลา
หาอยู่นานพอ สมควรกว่าจะเจอปากทางเข้าถ้ำในใจก็คิดรู้สึกแปลก ๆ
 ยังไงไม่รู้แต่เมื่อพบปากทางเข้าถ้ำก็เป็นเวลามืดพอดีซึ่งมองอะไรไม่เห็น
จึง ต้องใช้ไฟฉายช่วยเสริมทัศนะวิสัยของเรา แต่จากการตรวจสอบ
สภาพแวดล้อมและสภาพอากาศ ไม่เอื้ออำนวยในการลงไปอัญเชิญพระธาตุ
 เพราะอากาศในถ้ำ ณ ขณะนั้นมีไม่เพียงพอให้เราลงไปในถ้ำได้ทางผม
และคณะจึงต้องถอยออกมาจากถ้า ก่อนและปรึกษากันว่าพรุ่งนี้เช้า
ค่อยเข้าไปใหม่ เพราะถ้าขืนเข้าไปในเวลานั้นอาจเสียชีวิตเพราะ
ขาดอากาศหายใจได้ ใน เวลานั้นเองผมไม่รู้เลยว่ากำลังถูกเจ้ากรรมนายเวร
ติดตามทุกฝีก้าวตั้งแต่ที่ ก้าวแรกที่เท้าแตะพื้น ณ ที่ถ้ำแห่งนี้
แถมเป็นการมาอัญเชิญครั้งแรกอีก แถมตัวผมเองไม่รู้อีก
 หลังกลับมาจากปฏิบัติภารกิจ 1 วันผมก็เริ่มมีอาการปวดศีรษะเรื่อย ๆ
 มาจนวันหนึ่งผมก็ได้โทรศัพท์จากคุณวิฑัญดา ว่าอาจารย์กฤษณะ
 ให้โทรหาด่วน พร้อมกับแจ้งเรื่องเจ้ากรรมนายเวรของผมพร้อมกับ
แสดงหลักฐานเป็นภาพถ่าย ในภาพนั้นเป็นภาพผมกับคุณน้ำใสและ
คุณวิฑัญดา ได้ถ่ายภาพร่วมกันแต่ในภาพนั้นติดเจ้ากรรมนายเวรผม
ด้วยในลักษณะตาโบ และรูปร่างผมสูง สไตล์นักรบโบราณ
 ยืนอยู่หลังผมพร้อมกับใช้มือกดที่ขมับด้านซ้ายผมอยู่ 
ผมก็ถึงบางอ้อมิน่าล่ะผมถึงได้ปวดศีรษะด้านซ้ายมากตั้งแต่กลับมาจาก
ไปอัญเชิญพระธาตุมา อาจารย์กฤษณะท่านได้ตรวจดูเหตุการณ์ให้และ
พร้อมให้คำแนะนำเรื่องทำบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวรจนอโหสิกรรมต่อกันไป.